เมื่อเวลาผ่านไปรายได้เฉลี่ยต่อคน ARPU: Average Revenue Per User ที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือได้รับเริ่มต่ำลงเรื่อยๆ หนทางเดียวที่จะเพิ่มรายได้ก็คือ การหาบริการใหม่ๆ มาเปิดให้บริการนั่นก็คือ การบริการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงซึ่ง 3G คือคำตอบโดยพื้นฐานแล้ว 3G ที่เปิดให้บริการนี้จะก้าวไปถึงยุค 3.5G หรือ HSPA: High Speed Packet Access ที่มีความเร็วสูงสุดถึง 14.4 Mbps สำหรับการดาวน์โหลดนั้นก็พอสำหรับการท่องเน็ตหรือเล่นอินเตอร์เน็ตทั่วๆไป แต่นี่ก็เป็นความเร็วสำหรับผู้ใช้คนเดียวหากมีการใช้งานหลายๆ คนก็ต้องมีการแชร์กันใ้ช้งาน นั่นหมายความว่าความเร็วที่แท้จริงที่ได้อาจจะต่ำกว่าที่คาดไว้ก็เป็นได้
ในระยะแรกของการให้บริการ 3G ในเมืองไทยจะอยู่ในรูปแบบของการทดลองใช้งาน โดยจะเปิดให้ใช้ในอาคารสำนักงานใหญ่ๆ หรือศูนย์การค้า ซึ่งของ True จะใช้ย่านความถี่ 850 MHz แต่มือถือในยุคที่ 3 ทั่วไปจะใช้ความถี่ 900, 1900 หรือ 2,100 MHz ซึ่งกว่าจะเปิดให้ใช้งานได้จริงๆ ก็ต้องมีการประมูลความถี่ เบื้องต้นประมาณการไว้ว่าปี 2010 (ความจริงแล้วเครือข่ายที่วางไปรองรับระบบ 3G มานานแล้ว เพียงแต่ผู้ให้บริการรอใบอนุญาตเท่านั้น ผู้ให้บริการสามารถเปิดให้บริการภายใน 1-2 วันหลังจากได้รับใบอนุญาตเพราะมีการเตรียมความพร้อมมานานแล้ว) เมื่อเปิดให้บริการ 3G แล้วก็จะมีผู้เอามือถือระบบ 3G มาใช้งานแทนอินเทอร์เน็ต ADSL เพราะบางบ้านอยากใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงแต่ก็ไม่มีคู่สายว่าง หรือคนที่พักอยู่หอพักไม่สามารถลากสายโทรศัพท์ได้ เพียงแต่มีถือถือที่รองรับ 3G หรือ AirCard หรือไวเลสเราเตอร์ที่รองรับ 3G มาก็จะทำให้สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านระบบ 3G ได้และอีกกลุ่มคือการใช้มือถือดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม และการถ่ายทอดสดผ่านระบบโทรศัพท์มือถือ ทั้งหมดนี้ทำให้มือถือ 3G โปรเสริมอินเตอร์เน็ตดีแทค กลายเป็นเครื่องมือที่ใช้ทำอะไรได้หลากหลายผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตนั้นเอง
